หากถามว่า มนุษย์เงินเดือนควรประกันรถยนต์ชั้นไหนดี เราก็ต้องบอกเลยว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น งบประมาณ ความเสี่ยงในการขับขี่ และความคุ้มครองที่ต้องการ ซึ่ง ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณี รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ใหม่หรือมีความเสี่ยงในการขับขี่สูง ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่ไม่มีคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม ประกันรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดมาก ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 มีให้เลือกทั้งแบบมีและไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก ค่าเสียหายส่วนแรกคือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายก่อนบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน การเลือกค่าเสียหายส่วนแรกที่มีมูลค่าสูงจะทำให้เบี้ยประกันถูกลง แต่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเงินก้อนแรกในกรณีที่ต้องเคลมประกัน นอกจากนี้ ยังมีประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ ให้เลือก เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1+ ประกันรถยนต์ชั้น 2 ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 4+ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป

เลือกประกันรถยนต์ควรพิจารณาจากปัจจัยไหนบ้าง ถึงจะคุ้ม ?

หลักๆ คือ ควรพิจารณางบประมาณ งบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด แต่ก็มีเบี้ยประกันที่แพงที่สุดเช่นกัน ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 มีเบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ความคุ้มครองก็จะน้อยลงตามลำดับ ควรพิจารณาความเสี่ยงในการขับขี่ ผู้ที่มีความเสี่ยงในการขับขี่สูง เช่น ขับรถเร็ว ขับรถฝ่าฝืนกฎหมาย หรือขับรถทางไกลบ่อยครั้ง ควรเลือกประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุม เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียทรัพย์สิน ควรพิจารณาความคุ้มครองที่ต้องการ นอกจากความคุ้มครองพื้นฐานแล้ว ยังมีประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ ให้เลือก เช่น ประกันรถยนต์โจรกรรม ประกันรถยนต์ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ประกันรถยนต์อุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นต้น ผู้เอาประกันควรพิจารณาความคุ้มครองที่ต้องการก่อนเลือกซื้อประกันรถยนต์ และท้ายที่สุด ก็คือ ควรเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทประกันภัย เพื่อหาราคาที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด ในปัจจุบันมีเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์หลายแห่งที่ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายและสะดวกอย่างที่สุดนั่นเอง